เครื่องมือช่าง ไขควง(Screwdriver)
คงไม่มีใครที่ไม่รู้จักไขควงใช่ไหมครับ ?? ไขควง
เป็นเครื่องมือช่างพื้นฐานที่สามารถพบเจอได้ทั่วไป ใช้สำหรับการขันนอตและสกรู
ที่ด้ามจับจะมีฉนวนหุ้มเพื่อความปลอดภัยของผู้ใช้งาน โดยขนาดและรูปทรงของไขควงจะถูกออกแบบตามลักษณะการใช้งานครับ
ไขควงประกอบไปด้วยส่วนประกอบหลักๆ 3 ส่วน ได้แก่ ด้ามไขควง(Handle) ก้านไขควง (Blade or Ferule) และปากไขควง (Tip)
ด้ามไขควง – ถูกออกแบบให้มีรูปทรงที่สามารถจับได้อย่างถนัดมือ การบิดไขควงไปมาสามารถทำโดยใช้แรงได้มากสุด
โดยส่วนใหญ่แล้วด้ามของไขควงจะทำจากวัสดุที่เป็นฉนวนไฟฟ้า เช่น ไม้ พลาสติก
หรืออาจทำจากโลหะบางชนิด ก็ตามแต่ลักษณะการใช้งานครับ
ปากไขควง
– ปากไขควงทำจากเหล็กกล้าเกรดดี อาจจะเป็นทรงกลมหรือสี่เหลี่ยมจัตุรัสก็ได้ครับ
โดยเหล็กกล้าเหล่านี้จะถูกนำไปตีขึ้นรูปให้ลาดแบน และชุบแข็งด้วยความร้อน
ในส่วนที่ไม่ได้ตีขึ้นรูป ก็จะกลายเป็นก้านไขควงนั่นเองครับ
ก้านไขควง
– ท่านผู้อ่านคงสังเกตเห็นว่า ไขควงมีทั้งก้านกลมและก้านเหลี่ยม
แล้วท่านผู้อ่านเคยสงสัยไหมครับ ว่ามันแตกต่างกันอย่างไร
สำหรับไขควงที่เป็นก้านกลม จะใช้สำหรับงานเบาครับ ส่วนไขควงที่เป็นก้านเหลี่ยม ก็จะใช้สำหรับงานหนักครับ
เพราะก้านที่เป็นเหลี่ยมของมันจะสามารถใช้ประแจหรือคีมจับเพื่อเพิ่มแรงบิดของงานได้นั่นเองครับ
แล้วท่านผู้อ่านเคยสังเกตไหมครับว่า
ไขควงที่มีก้านยาว จะมีความกว้างของปากไขควงกว้างกว่าไขควงที่มีก้านสั้น และไขควงที่มีปากกว้างมาก
ก็จะมีความหนาของปากไขควงมากกว่าไขควงที่มีปากกว้างน้อย ท่านผู้อ่านหลายๆท่านอาจมองเป็นเรื่องเล็กนะครับ
แต่ใครจะไปรู้ละครับ ว่านี่คือข้อสำคัญอย่างหนึ่งในการเลือกซื้อไขควงเลยทีเดียว
เพราะแรงบิดที่กระทำต่อตัวสกรูนี้เป็นผลส่วนหนึ่งที่มาจากความยาวของไขควง
และความหนาของปากไขควงก็เป็นผลโดยตรงต่อการบิดของสกรูเพราะหากขนาดของปากไขควงไม่พอดีกับร่องผ่าของหัวสกรูแล้ว
อาจจะทำให้เกิดความเสียหายต่อปากไขควง หรือหัวสกรูนั้นๆได้ หรือไม่
เราก็อาจจะต้องประคองปากของไขควงให้อยู่บนร่องของสกรู
ซึ่งจะทำให้ประสิทธิภาพการทำงานของเราลดลงอีกด้วยครับ ดังนั้น เพื่อประสิทธิภาพการทำงานที่ดี
เราควรเลือกไขควงที่มีขนาดความยาวทั้งหมด และขนาดความกว้างและความหนาของปากไขควงที่มีความสัมพันธ์กันนะครับ
ไขควงที่เรารู้จักกันโดยทั่วไปก็จะมีอยู่
2 ประเภทนะครับ
1. ไขควงปากแบน คือ ไขควงที่มีลักษณะปากแบนเป็นเส้นตรง ลาดเอียงไปยังสุดของปลายไขควง
ใช้ไขสกรูที่เป็นร่องเส้นเดียว 2. ไขควงปากแฉก คือ ไขควงที่มีลักษณะปากเป็นสี่แฉก ใช้ไขสกรูที่มีร่องของสกรูเป็นสี่แฉก
เวลาบิดจะต้องใช้แรงกดที่ด้ามมากว่าไขควงปากแบน
เพื่อไม่ให้เหลี่ยมของไขควงหลุดออกจากร่อง
นอกจากไขควงทั้ง 2 ประเภทนี้แล้ว ยังมีไขควงอีกหลากหลายประเภท
ที่เป็นที่รู้จักกันเฉพาะในวงการช่าง เช่น
ไขควงปากบล็อก คือ ไขควงชนิดนี้มีลักษณะปากที่เป็นบล็อกหกเหลี่ยม ใช้สำหรับสกรูที่มีร่องเป็นหกเหลี่ยม
ไขควงหัวคลัตช์ คือ ไขควงที่ใช้เฉพาะสำหรับงานที่เป็นโลหะแผ่น และงานตบแต่งที่ต้องการความประณีตสวยงาม
ไขควงเยื้องศูนย์
หรือ ไขควงออฟเสท คือ
ไขควงที่ถูกออกแบบมาเป็นพิเศษสำหรับงานที่ไขควงปากแบนและไขควงปากแฉกใช้งานไม่ได้
เช่น ตามซอกมุมต่างๆ ไขควงชนิดนี้จะมีปากไขควงอยู่ที่ปลายก้านไขควงทั้งสองด้าน และก้านไขควงที่อยู่ตรงกลางทำหน้าที่เป็นด้ามไขควงด้วย
แต่การใช้งานไขควงประเภทนี้จะต้องระวังหน่อยนะครับ
เพราะไขควงประเภทนี้จะหลุดออกจากสกรูได้ง่าย และทำให้สกรูเสียหายได้ครับ
ก่อนจะใช้งานไขควงแต่ละครั้ง
จะต้องตรวจสอบสภาพไขควงให้อยู่ในสภาพที่พร้อมใช้งานทุกครั้ง คือ
ปากไขควงจะต้องเรียบ ไม่มีรอยบิด เพราะไขควงที่ชำรุดสึกหรอ ไม่เรียบตรง
ปากมีรอยบิดหรือแตกร้าว เมื่อไขควงเหล่านี้ถูกนำไปใช้งาน
ปากของไขควงจะไม่สามารถสัมผัสกับร่องของหัวสกรูได้เต็มที่ เมื่อผู้ใช้งานออกแรงบิด
ปากไขควงอาจเกิดการลื่นหลุดออกจากหัวสกรูและก่อให้เกิดอันตรายต่อผู้ใช้งานได้ครับ
วิธีใช้และการบำรุงรักษา
1.
ไม่ควรใช้ไขควงแทนสกัด ค้อน หรือสิ่ว
2.
ไม่ควรใช้ไขควงที่เปื้อนน้ำมัน เพราะอาจเกิดการพลาดพลั้งกระแทกมือได้
3.
ควรเลือกใช้ไขควงที่มีลักษณะปากตรงกับชนิดของหัวสกรู
4.
การใช้ไขควง ควรจับที่ด้ามของไขควง ไม่ควรใช้คีมจับด้ามไขควงขันสกรู
5.
ถ้าไขควงชำรุดต้องซ่อมทันที
6.
หลีกเลี่ยงการใช้ไขควงถอดหรือคลายสกรูเก่าที่ชำรุด
7. เมื่อเลิกใช้แล้วควรทำความสะอาดและเก็บเข้าที่ให้เรียบร้อย
การเลือกซื้อไขควง ยี่ห้อ Snap-On (USA) ถือได้ว่าเป็นสุดยอดของเครื่องมือ
เรียกได้ว่าเป็น King of Tools ทั้งคุณภาพและราคาเลยทีเดียวครับ
หรือหากต้องการคุณภาพและราคาที่ประหยัด ผมแนะนำของ PB และ CHAMPIONแท้ครับ
***หากต้องการคำปรึกษาสามารถสอบถามเพิ่มได้ที่นี่เลยนะครับ***
***บุญสิทธิ์ 0817345965,0865225965***
|