ตลับลูกปืน
ตลับลูกปืนเป็นเครื่องมือที่ทำหน้าทีคอยลดความเสียดทานระหว่างผิวสัมผัส ทำให้สามารถลดปริมาณพลังงานที่จำเป็นต้องใช้ในการขับเคลื่อนเครื่องจักรและ
เนื่องจากความเสียดทานที่ลดลง จึงช่วยเพิ่มสมรรถนะในการทำงานของเครื่องจักร ลดการสึกหรอ
มีผลให้การดูแลรักษาง่ายขึ้น โดยทั่วไปตลับลูกปืนที่มีเม็ดลูกกลิ้งจะมีความเสียดทานต่ำกว่า
ความเสียดทานคืออะไร
ความเสียดทาน คือ ความพยายามในอันที่จะต้านทานการเคลื่อนที่หรือการหมุน
ซึ่งเกิดขึ้นเนื่องจากการเสียดสีของผิวสัมผัสนั่นเอง ต้องขอบคุณความพยายามของมนุษย์เพื่อที่จะเอาชนะความเสียดทาน
เราจึงมีตลับลูกปืนประกอบด้วย 5 องค์ประกอบหลัก คือ แหวนนอก เม็ดลูกกลิ้ง รัง แหวนใน ฝาปิดกันฝุ่น
(เรียงตามลำดับดังภาพ)
ความเสียดทานกับชนิดของตลับลูกปืน
เราอาจแบ่งตลับลูกปืนที่ มีเม็ดลูกกลิ้งได้อย่างง่ายตามลักษณะของผิวสัมผัสที่เกิดขึ้น
คือ ตลับลูกปืนที่มีลักษณะการสัมผัสเป็นจุด (Point Contact) (รูปซ้าย) เช่น ตลับลูกปืนเม็ดกลมร่องลึกแถวเดี่ยว
ตลับลูกปืนเม็ดกลมสัมผัสเชิงมุม และตลับลูกปืนเม็ดกลมสองแถวปรับแนวได้เอง
และลักษณะการสัมผัสแบบเป็นเส้น (Line Contact) (รูปขวา) เช่น
ตลับลูกปืนเม็ดเรียว ตลับลูกปืนเม็ดทรงกระบอก ตลับลูกปืนเม็ดโค้งสองแถว
การแบ่งแยกประเภทของตลับลูกปืน
เรามีวิธีในการแบ่งแยกประเภทของตลับลูกปืน
โดยอาศัยปัจจัยในด้านโครงสร้าง ออกได้เป็น 3 ประเภทหลักๆ คือ
1. ตลับลูกปืนประเภทที่ไม่มีเม็ดลูกกลิ้ง (Plain
Bearings) และตลับลูกปืนที่มีเม็ดลูกกลิ้ง (Rolling
Bearings) สำหรับเครื่องจักรที่ได้รับการผลิตในปัจจุบันเกือบทั้งหมดจะเลือกใช้ตลับลูก
ปืนที่มีเม็ดลูกกลิ้ง เนื่องจากค่าความเสียดทานที่ต่ำกว่า มีความสามารถในการรับแรงที่ดี
การสึกหรอต่ำ และดูแลรักษาได้ง่ายกว่า
2. ตลับลูกปืนที่มีเม็ดกลมและตลับลูกปืนที่มีเม็ดยาว ด้วยการออกแบบของเม็ดลูกกลิ้งที่แตกต่างกัน ทำให้ตลับลูกปืนที่มีมิติขนาดเท่ากัน
เม็ดยาวจะสามารถรับแรงได้มากกว่าเม็ดกลม แต่ในทางตรงข้าม ตลับลูกปืนเม็ดยาวสามารถทำงานได้ที่ความเร็วรอบที่ต่ำกว่าเม็ดกลม
เนื่องจากความเสียดทานที่สูงกว่าของผิวสัมผัสนี่เอง
3.ความสามารถในการรับแรง ตลับลูกปืนอาจแบ่งแยกประเภทตามการรับแรงได้เป็น 3 ประเภทคือ
- ตลับลูกปืนรับแรงแนวรัศมี
(Fr)
- ตลับลูกปืนรับแรงรุนในแนวแกน
(Fa)
- ตลับลูกปืนรับแรงรุน และแรงแนวรัศมีได้ในขณะเดียวกัน
ขอขอบคุณ SKF Thailand ที่เอื้อเฟื้อข้อมูล
|